|
D-TECH
คือ เทคโนโลยีขั้นสูงที่เหนือกว่าเพาเวอร์แอมป์ทั่วไป
ให้ประสิทธิภาพการสูญเสียพลังงานน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมาและให้กำลังขับมากกว่า
แต่ให้เสียงที่ใสสะอาด
เหนือกว่าเสียงของเพาเวอร์แอมป์ที่เคยมีมา
D-TECH คือ เพาเวอร์แอมป์ที่ออกแบบด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
ที่มาพร้อมกำลังขับที่มากเมื่อเทียบกับขนาดของเพาเวอร์แอมป์ D-TECH
สร้างความร้อนน้อยมากและให้เสียงที่ใสสะอาด แน่นกระชับ
เรารวมข้อดีของเครื่องขยายเสียงแบบอนาล็อกและดิจิตอลเข้าไว้ด้วยกัน
จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเพาเวอร์แอมป์ D-TECH ของ TAFN AUDIO SYSTEM จึงเป็นเทคโนโลยีเพาเวอร์แอมป์ขั้นสูงที่ใช้งานได้ง่ายมาก
ไม่มีปัญหาในการใช้งาน และน่าใช้งานมากที่สุด |
เพาเวอร์แอมป์ดิจิตอล
D-TECH
จะแปลงสัญญาณอนาล็อกที่เข้ามาให้เป็นสัญญาณดิจิตอลก่อนที่สัญญาณจะถูกขยาย
สัญญาณจะถูกขยายในขณะที่มันอยู่ในรูปแบบดิจิตอล
ส่งผลให้ประสิทธิภาพและกำลังขับที่สูงมาก
สัญญาณที่ขยายแล้วจะถูกแปลงกลับมาในรูปแบบของสัญญาณอนาล็อกเพื่อที่จะนำมาใช้งาน
เพาเวอร์แอมป์
D-TECH มีระบบการจัดการที่ชาญฉลาดที่ช่วยการแปลงสัญญาณให้มีความรวดเร็วมากขึ้น
และในขณะเดียวกันเพาเวอร์แอมป์ยังส่งสัญญาณอนาล็อกเอาต์พุตย้อนกลับมาเปรียบเทียบสัญญาณอนาล็อกอินพุตโดยไม่มีการหน่วงเวลาสัญญาณเสียงที่ใช้ในการเปรียบเทียบ
ทำให้คลื่นสัญญาณเสียงเอาต์พุตที่ออกมามีการปรับรูปคลื่นสัญญาณให้ตรงตามสัญญาณที่เข้ามา
เพาเวอร์ซัพพลายขั้นสูง
เพาเวอร์ซัพพลายของเพาเวอร์แอมป์ TAFN AUDIO SYSTEMS
ถือได้ว่าทันสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ออกแบบวงจร full-bridge
เป็นพิเศษที่ให้พลังงานสูงอย่างต่อเนื่องโดยเครื่องไม่ร้อนเกินไป
ไม่เพียงระบบ soft-start เท่านั้น แต่ยังมีระบบ soft turn-on
ที่ช่วยป้องกันไฟกระชากในขั้นตอนการป้อนไฟขณะเปิดเพาเวอร์แอมป์
ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดเครื่องขยายเสียงได้พร้อมกันจำนวนหลายๆเครื่องทันที
โดยไม่ต้องเปิดเพาเวอร์แอมป์ทีละตัว
และเมื่อเกิดปัญหาไฟตกหรือไฟเลี้ยงไม่พอ
เพาเวอร์ซัพพลายก็ยังคงสามารถจ่ายไฟเลี้ยงภาคขยายได้อย่างต่อเนื่องโดยที่กำลังวัตต์ไม่ตก
ระบบเพาเวอร์ซัพพลายของ TAFN จึงช่วยให้เพาเวอร์แอมป์มีความปลอดภัยและยืดหยุ่นในการใช้งานมากที่สุด |
|
D-TECH
ใข้เพาเวอร์ซัพพลายเป็นแบบเทคโนโลยีสวิทซ์โหมดชั้นนำ
ซึ่งมั่นใจได้ว่าในกรณีแหล่งจ่ายไฟเกิดความผันผวนขึ้น
กำลังขับที่ออกมายังคงเสถียรเหมือนปกติ เพราะว่า D-TECH
ใช้ระบบการฟีดแบล็คเร็ว(fast-feedback system)
ในกรณีที่ไฟดับหรือเกิดการกระชากของไฟที่รุนแรงจนเครื่องดับ และระบบ
soft-start จะเริ่มทำงานทันทีเมื่อเครื่องเริ่มทำงานใหม่
โดยเสียงจะค่อยๆดังขึ้นจะไม่เกิดเสียงดังทันทีทันใด
เป็นระบบการป้องกันภายในเครื่องและลำโพงไม่ให้เกิดการเสียหาย
ภาคขยายเสียงดิจิตอลขั้นสูง
|
เนื่องจาก D-TECH มีการออกแบบวงจรพิเศษ
ที่ทำให้เอ้าพุทอิมพีแดนซ์ (output impedance) ต่ำมาก ส่งผลให้ damping
factor จะสูงมาก จึงสามารถบังคับดอกลำโพงได้ดีกว่า
เสียงเบสที่ออกมาจึงหนักแน่นเหมือนจริง แม้ว่าเพาเวอร์แอมป์ถึงจุดคลิป
(clip) แล้ว แต่ทว่า damping factor ก็ยังคงสูงอยู่
เสียงที่ออกมาจึงมีความชัดเจน ไม่เบลอ
ในกรณีที่เกิดการโอเวอร์โหลด(overload) หรือเกิดการช็อต
D-TECH จะจำกัดกระแสเอ้าท์พุทโดยอัตโนมัติ
ทำให้เพาเวอร์แอมป์สามารถป้องกันระบบภายใน
ไม่ให้เกิดการเสียหายอย่างสมบูรณ์ โอกาสที่จะเสียหายมีน้อยมาก
ระบบ ACC (Automatic Current Control) จะทำการวัดกระแสที่ออกมาตลอดเวลา
และถ้ากระแสเกินจุดที่เครื่องกำหนด
ระบบจะทำการลดสัญญาณเอ้าท์พุทโดยอัตโนมัติ
เพื่อกระแสจะได้ไม่เกินจุดที่กำหนด แม้ว่าจะเกิดการโอเวอร์โหลด(overload)
หรือช็อต(short circuit) แค่ไหนก็ตาม
|
เพาเวอร์แอมป์ D-TECH
ใช้เทคโนโลยีดิจิตอลสวิทซ์โหมดที่สูญเสียพลังงานไปเป็นความร้อนน้อยมาก
และสามารถนำพลังงานที่ส่งกลับมาจากลำโพงเอาไปใช้ใหม่ได้
ทำให้ไม่ต้องใช้ฮีทซิ้งค์และระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่
จึงทำให้เครื่องขยายเสียงมีขนาดกระทัดรัด
น้ำหนักเบา ประหยัดพลังงาน และใช้งานได้ยาวนาน
กราฟ:
เปรียบเทียบการสูญเสียความร้อนในเทคโนโลยี่ต่างๆ
Class-AB
50% Power loss in heat |
Class-H 30% Power loss in heat |
Class-TD (AB+D) 10-15% Power
loss in heat |
D-TECH 3- 5% Power loss
in heat |
เพาเวอร์แอมป์
D-TECH สูญเสียพลังงานเป็นความร้อนแค่ 5% เมื่อเปรียบเทียบกับ Class AB
สูญเสียพลังงานเป็นความร้อน 50%, Class-H สูญเสียพลังงานเป็นความร้อนประมาณ
30% และ Class-TD (AB+D) สูญเสียพลังงานเป็นความร้อน 10 - 15% |
สูญเสียความร้อนน้อย เพาเวอร์แอมป์ดิจิตอล D-TECH
ใช้พลังงานเพียงครึ่งหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณพลังงานที่ใช้กับเพาเวอร์แอมป์
Class AB ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งไฟฟ้าและประหยัดค่าไฟ |
D-TECH
ทำได้อย่างไร? เราออกแบบดิจิตอลเพาเวอร์แอมป์ชั้นนำ
และออกแบบภาคจ่ายไฟดิจิตอลสวิทซ์โหมดเป็นพิเศษ เมื่อรวมการออกแบบทั้ง 2
อย่างนี้เข้าด้วยกัน
ทำให้เครื่องขยายเสียงมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และประสิทธิภาพสูง |
ขอขอบคุณในการพัฒนาเทคโนโลยีของเรา
D-TECH i SERIES คือเพาเวอร์แอมป์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
มีการสูญเสียพลังงานจากความร้อนเพียง 3% อีก 97%
เป็นพลังงานที่เครื่องใช้งานเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
95%
|
การควบคุมกรวยลำโพงเต็มประสิทธิภาพ
เพาเวอร์แอมป์มีระบบการจัดการกรวยลำโพงที่น่าทึ่ง
โดยการปล่อยสัญญาณไฟฟ้าควบคุมกรวยลำโพงตลอดลูกคลื่น
ซึ่งเป็นการควบคุมลำโพงที่ดีที่สุด เพื่อให้เสียงที่ออกมาสมจริงที่สุด
เพาเวอร์แอมป์ D-TECH
จะบังคับกรวยลำโพงให้กลับสู่จุดศูนย์กลางโดยใช้สัญญาณไฟฟ้าเข้าควบคุมกรวยลำโพงตลอดเวลา
เสียงที่ออกมาจึงใสสะอาดชัดเจนถึงแม้แผ่นสไปเดอร์(speaker spider)
เสื่อมสภาพก็ตาม เพาเวอร์แอมป์ D-TECH
อาศัยการเคลื่อนที่ของแผ่นสไปเดอร์โดยธรรมชาติน้อยมาก
เพราะการคืนตัวของแผ่นสไปเดอร์(speaker spider)
โดยธรรมชาตินั้นจะตอบสนองช้ากว่าสัญญาณเสียง
การควบคุมกรวยลำโพงตลอดลูกคลื่นจะให้เสียงแน่นกระชับใสสะอาด
เสียงเบสและเสียงกลางแหลมที่ออกมาเหมือนจริง
ซึ่งเป็นคุณสมบัติของเพาเวอร์แอมป์ทุกรุ่นของทาฟน์ แต่ทว่า D-TECH i SERIES
มีประสิทธิภาพในการควบคุมกรวยลำโพงที่เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ
เปิดเผยความลับของเสียงใสสะอาด
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เพาเวอร์แอมป์ D-TECH ของ TAFN Audio System
ให้เสียงที่ใสสะอาด เพราะสามารถกำจัดสัญญาณรบกวน
ที่ซ้อนเร้นอยู่ในรูปของ intermodulation ได้
ฮาร์โมนิกที่นอกเหนือจากสัญญาณของเสียง
ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากการทำงานของเพาเวอร์แอมป์ที่เอาต์พุตสเตจและลำโพง
ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิด Intermodulation
เข้ามารบกวนในย่านเสียง ทำให้เสียงไม่สะอาดเหมือนจริง
intermodulation เกิดขึ้นได้จากการที่ damping factor
ในความถี่นอกย่านเสียงมีค่าต่ำ
ขณะที่เพาเวอร์แอมป์ทำการขยายสัญญาณที่ความถี่สูงๆ
ที่มากกว่าสัญญาณเสียงหรือมากกว่า 20 KHz
ขึ้นไปและ intermodulation
ที่เกิดขึ้นนี้ก็จะส่งผลย้อนกลับมายังลำโพง
ต้องขอบคุณการทำงานของ D-TECH ที่มีวงจรกรองความถี่เอาต์พุต(output
filter) ประสิทธิภาพสูง
ที่ช่วยตัดสัญญาณฮาร์โมนิก นอกย่านเสียงได้อย่างเฉียบคม ทำให้ไม่เกิด
Intermodulation
ที่จะย้อนกลับเข้ามาทำลายเสียงที่ใสสะอาดของเพาเวอร์แอมป์ได้
เพาเวอร์แอมป์ส่วนใหญ่ไม่สามารถแก้ปัญหาสัญญาณรบกวนที่เกิดจาก
intermodulation ได้ ทำให้เกิดค่าความผิดเพี้ยนของเสียงที่เกิดจาก
intermodulation ขึ้น
เนื่องจากเพาเวอร์แอมป์พวกนั้นไม่ได้ทดสอบในระบบที่เอื้อต่อการเกิด
Intermodulation
ใช้เพียงตัวต้านทานที่ไม่เกิดผลตอบสนองที่เหมือนลำโพงจริง
ดังนั้นจึงไม่พบปัญหาของ Intermodulation
ที่เกิดขึ้นจริงกับการใช้งานจริง
แต่ถ้านำเพาเวอร์แอมป์พวกนี้มาทดสอบกับลำโพงที่ใช้งานจริง
จะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน เสียงจากเพาเวอร์แอมป์ D-TECH
ให้เสียงที่ดีกว่าเพาเวอร์แอมป์ทั่วไป
เพราะเทคโนโลยีการตัดสัญญาณที่สามารถตัดที่ต้นตอของสาเหตุการเกิด
intermodulation ได้
คุณสมบัตินี้มีอยู่ในเพาเวอร์แอมป์ทุกรุ่นของ
TAFN Audio System แต่ทว่า D-TECH i
SERIES
มีประสิทธิภาพในการกรองสัญญาณฮาร์โมนิกที่เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ
|
|
ระบบป้องกันที่ทันสมัยที่สุด
D-TECH
มีระบบ automatic current control (ACC)
ที่สามารถจำกัดกระแสได้โดยอัตโนมัติ
ซึ่งจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าเพาเวอร์แอมป์ของคุณจะปลอดภัยจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
ระบบ ACC จะทำการตรวจสอบกระแสเอาต์พุตอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งถ้าระบบตรวจพบว่ากระแสเอาต์พุตสูงเกินกว่าระดับที่กำหนดไว้ ระบบ
ACC จะทำการจำกัดกระแสให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมทันที
ไม่ว่าสาเหตุของกระแสเอาต์พุตที่สูงเกินนั้นเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือกระแสเกินก็ตาม
ในกรณีเกิดการช็อตลำโพงขึ้น
ระบบ ACC จะจำกัดกระแสในทันทีไม่มีการหน่วงเวลาเกิดขึ้น
เนื่องจาก
D-TECH มีระบบการป้องกันการช็อตที่ลำโพง
แต่เพาเวอร์แอมป์ทั่วไปเมื่อเกิดการช็อตที่ลำโพงขึ้นจะมีการหน่วงเวลาเป็นเวลาสั้นๆ
แต่ทว่าในช่วงเวลาหน่วงเวลาสั้นๆนั้นคาปาซิสเตอร์ภายในวงจรจะทำการคลายประจุออกมา
ซึ่งอาจส่งผลทำให้ทรานซิสเตอร์เกิดความเสียหายได้
แต่ D-TECH จะไม่มีการหน่วงเวลาเกิดขึ้น
เพราะระบบ ACC จะจำกัดกระแสในทันที
ทรานซิสเตอร์จะปรับการทำงานให้เหมาะสมเมื่อเกิดการช็อตที่ลำโพงในทันที
Soft turn-on feature and over-voltage
detector are available only in
i-power series, and d-tech i series. |
เพาเวอร์แอมป์ D-TECH มีระบบป้องกัน high frequency oscillations
ที่เกิดจากการใช้เพาเวอร์แอมป์ผิดวิธีหรือการติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง
ซึ่งระบบ automatic control gain (AGC)
จะจำกัดสัญญาณที่เกิดขึ้นให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยจนกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะได้รับการแก้ไข
ระบบการป้องกันต่างๆที่เพิ่มขึ้น
จะช่วยให้เพาเวอร์แอมป์ปลอดภัยจากปัญหาไฟตก ไฟเกิน
ไฟกระชากที่เกิดจากแหล่งจ่ายไฟ
และระบบ soft-start จะส่งกำลังให้เป็นปกติ
โดยการค่อยๆเพิ่มระดับเสียงขึ้นเรื่อยๆ
เป็นการถนอมเพาเวอร์แอมป์กับลำโพงไม่ให้บอบช้ำ
|